จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

การดูแลผู้ป่วยที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ

การดูแลผู้ป่วยที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ


สายสวนปัสสาวะ ใช้สำหรับระบายปัสสาวะออกจากร่างกาย ผู้ป่วยที่มีภาวะจำเป็นต้องใส่ สายสวนปัสสาวะ(Urinary catheter) คือผู้ที่มีปัญหาการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ หรือระบบปัสสาวะสูญเสียหน้าที่ หรือ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น ผู้ที่เป็นอัมพาต

ผู้ป่วยบางรายมีความจำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ชั่วคราวเพื่อการรักษา

ผู้ป่วยที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ เมื่ออยู่โรงพยาบาล และต้องกลับไปดูแลต่อเองที่บ้าน และต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือที่สถานบริการสุขภาพต่างๆเพื่อรับการรักษาเป็นระยะๆ จึงมีความจำเป็ฯต้องได้รับการดูแล อย่างถูกต้อง

ผู้ป่วยที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ มีหลักการดูแล คือ
1.ปัสาวะไหลสะดวก
1. ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆประมาณ วันละ 2,500-3,000 มิลลิลิตร(2.5-3ลิตร) เพื่อช่วยชะล้างสิ่งอุดกั้นภายในทางเดินปัสสาวะ และช่วยขับของเสียในทางเดินปัสสาวะออกมาได้สะดวกมากขึ้น

ยกเว้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ต้องจำกัดน้ำอย่างเคร่งครัดตามแผนการรักษา หรือโรคที่แพทย์ให้จำกัดปริมาณน้ำดื่ม

2. ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้ หัก พับ หรือ งอ ควรตรึงสายสวนปัสสาวะไว้กับตัวผู้ป่วยด้วยพลาสเตอร์ กรณีผู้ป่วยผู้หญิง ควรติดพลาสเตอร์ตรึงสายสวนฯที่บริเวณหน้าขาด้านใน ส่วนกรณีผู้ป่วยผู้ชาย ควรติดพลาสเตอร์ตรึงสายสวนที่ บริเวณหน้าท้องน้อยด้านใดด้านหนึ่ง และหากพบว่าพลาสเตอร์ที่ติดไว้สกปรก สามารถเปลี่ยนได้บ่อยตามที่ต้องการ เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคที่อาจเข้าไปในสายสวนปัสสาวะ

3. ขณะนอน สายสวนปัสสาวะและสายที่ต่อกับถุงปัสสาวะ(ถุงรองรับปัสสาวะ) ควรยึดติดไว้กับที่นอน/เตียงนอน เพื่อลดการเคลื่อนที่ของสายฯดังกล่าว

4. ถุงรองรับปัสสาวะ ควรให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้ปัสสาวะไหลลงถุงรองรับปัสสาวะได้สะดวกโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก

5. ควรใช้มือบีบรูดสายสวนปัสสาวะบ่อยๆ เพื่อช่วยป้องกันตะกอนอุดตันสายสวนปัสสาวะ อย่างไรก็ตาม การใช้มือบีบรูดสายสวนปัสสาวะ ต้องใช้ความระมัดระวังการเกิดการดึงรั้งระหว่างสายสวนปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ จนอาจเกิดการบาดเจ็บกับท่อปัสสาวะและ/หรือกับเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่สายสวนฯคาอยู่ได้ ดังนั้น ผู้ป่วย หรือผู้ดูแล ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือจากพยาบาลในการบีบรูดสายสวนปัสสาวะจนเข้าใจ ก่อนนำไปปฏิบัติเองที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย

2.การป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการดูแล ผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะ โปรดอ่านเรื่อง การป้องกันการติดเชื้อผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะ




การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พักฟื้น อาหาร โรงพยาบาล ป่วย โรคเรื้อรัง ผ่าตัด สายให้อาหาร NG tube feeding เบาหวาน ความดัน ความดันโลหิตสูง แพทย์ ยา หารอาหารปั่น อาหารเสริม อาหารผสม นม นมกระป๋อง บัตรทอง สามสิบบาท ประกันสังคม บ้าน อัมพฤกษ์ อัมพาต พิการ ติดเตียง ใส่สายสวนปัสสาวะ ภาษาอังกฤษ สายสวนปัสสาวะ ราคาวิธีใช้ถุงปัสสาวะ การสวนปัสสาวะด้วยตนเอง สวนปัสสาวะ pantip การเปลี่ยนถุงปัสสาวะ การดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ ppt การทําความสะอาดสายสวนปัสสาวะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การศึกษาและประสพการณ์การทำงาน

นายบุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

BOONYING RERKUDOM

ใบประกอบวิชาชีพ เลขที่ 4511023525

สมาชิกสภาการพยาบาล เลขที่ 38875

Education

Bachelor of Nursing Science (1995), Mahidol University, BKK

Experience

2012 – Present: Supervisor Kasemrat Bangkae Hospital, BKK

2011-2012 : Supervisor BANGPAKOK 8 Hospital, BKK

2005-2011 : Night manager CHAOPHYA Hospital, BKK

1995-2005 : Nurse manager BANGPAKOK 1 Hospital, BKK

1992-1995 : ICU nurse Siriraj Hospital, BKK

การศึกษา

พยาบาลศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล (2535)

ประสพการณ์

2555- ปัจจุบัน :ผู้ตรวจการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค

2557- ปัจจุบัน :ผู้บริหารโรงเรียนบางกอกอินเตอร์แคร์ การบริบาล

2554- 2555 :ผู้ตรวจการ โรงพยาบาลบางปะกอก 8

2548- 2554 :ผู้ตรวจการ โรงพยาบาลเจ้าพระยา

2538- 2548 :ผู้จัดการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลบางปะกอก 1

2535- 2538 :พยาบาลประจำการ หออภิบาลสยามินทร์1 โรงพยาบาลศิริราช