จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ควรพาผู้ป่วยที่ใส่สายยางให้อาหารมาพบแพทย์ เมื่อใด

ควรพาผู้ป่วยมาพบแพทย์ เมื่อใด /

มาโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดเสมอ

หรือหากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติควรรีบพาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลก่อนนัด เช่น

ผู้ป่วยมีอาการท้องผูกมาก
ท้องเสียมาก หรือ
อาการสำลักอาหารบ่อย
น้ำหนักตัวลดลง
ทั้งนี้เพื่อแพทย์ตรวจพิจารณาหาสาเหตุและปรับการให้อาหารทางสายให้อาหาร หรือใช้วิธีการรักษาอื่นตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย

ที่มา : http://haamor.com/การดูแลการให้อาหารทางสายให้อาหาร/

การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พักฟื้น อาหาร โรงพยาบาล ป่วย โรคเรื้อรัง ผ่าตัด สายให้อาหาร NG tube feeding เบาหวาน ความดัน ความดันโลหิตสูง แพทย์ ยา หารอาหารปั่น อาหารเสริม อาหารผสม นม นมกระป๋อง บัตรทอง สามสิบบาท ประกันสังคม บ้าน อาหารทางสายยาง คือ
สูตรอาหารทางสายยาง  อาหารทางสายยาง สำเร็จรูป สูตรอาหารทางสายยาง รามาธิบดี วัตถุประสงค์ การ ให้ อาหาร ทาง สาย ยาง
การดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์การให้อาหารทางสายยางการใส่สายยางให้อาหาร

ภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง) ที่อาจเกิดจากให้อาหารทางสายให้อาหาร

ภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง)
ที่อาจเกิดจากให้อาหารทางสายให้อาหารเช่น


1.สายฯเลื่อนหลุดจากกระเพาะอาหารทำให้ของเหลว/น้ำย่อย/อาหารในกระเพาะอาหารไหลย้อน ขึ้นไปอยู่ในหลอดอาหารเมื่อผู้ป่วยนอนลงอาจทำให้อาหารเข้าไปให้หลอดลมจนอาจก่อให้เกิดภาวะปอดอักเสบ/ปอดบวมได้

2. การให้อาหารเร็วเกินไปจะกระตุ้นทำให้เกิดอาการท้องอืด/อึดอัดในท้อง

3. อุณหภูมิของอาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไปอาจทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการปวดท้อง จุก/เสียดท้อง

4. ท้องผูก ผู้ที่ได้รับอาหารทางสายฯมักได้รับอาหารที่มีใยอาหารไม่เพียงพอจึงมีโอกาสเกิดท้องผูกได้ง่าย

5. ท้องเสียที่อาจเกิดจากอาหารที่ได้รับเข้าไปทางสายฯอาจไม่สามารถถูกย่อยและ/หรือถูกดูดซึมได้หรืออาจเกิดจากอาหารบูดเน่า โดยทั่วไปอาหารที่ให้ทางสายให้อาหารจะเป็นอาหารปั่น ควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง อาหารที่เตรียมเสร็จแล้วแต่ยังไม่ถึงมื้ออาหารที่จะให้ครั้งต่อไป ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นและนำมาอุ่นก่อนที่จะให้อาหารในมื้อนั้นๆ

ส่วนการป้องกันภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวสามารถทำได้งายๆโดย

ตรวจสอบสายให้อาหารว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องทุกครั้งก่อนให้อาหาร

ขณะให้อาหาร ควรให้อาหารไหลไปอย่างช้าๆ หลีกเลี่ยงการใช้แรงดันกระบอกให้อาหาร และควรอุ่นอาหารก่อนการให้อาหารจะช่วยลดอาการแน่นอึดอัดท้อง

การให้อาหารที่มีใยอาหารสูงพร้อมกับการให้น้ำระหว่างมื้ออาหารอย่างเพียงพอเช่น หลังให้อาหารไปแล้ว 3 ชั่วโมงควรให้น้ำครั้งละ 50 - 100 มิลลิลิตรเมื่อผู้ป่วยไม่มีข้อห้ามการจำกัดน้ำดื่มจะช่วยลดอาการท้องผูกลงได้

อย่างไรก็ตามหากพบผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากการให้อาหารทางสายให้อาหารจนมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเช่น ท้องผูกหรือท้องเสียที่รุนแรงหรือที่มีอาการตลอดเวลา ควรรีบปรึกษาแพทย์และ/หรือพยาบาลเพื่อขอคำแนะนำให้การช่วยเหลือบำบัดรักษาอาการผู้ป่วย

ที่มา : http://haamor.com/การดูแลการให้อาหารทางสายให้อาหาร/

การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พักฟื้น อาหาร โรงพยาบาล ป่วย โรคเรื้อรัง ผ่าตัด สายให้อาหาร NG tube feeding เบาหวาน ความดัน ความดันโลหิตสูง แพทย์ ยา หารอาหารปั่น อาหารเสริม อาหารผสม นม นมกระป๋อง บัตรทอง สามสิบบาท ประกันสังคม บ้าน อาหารทางสายยาง คือ
สูตรอาหารทางสายยาง  อาหารทางสายยาง สำเร็จรูป สูตรอาหารทางสายยาง รามาธิบดี วัตถุประสงค์ การ ให้ อาหาร ทาง สาย ยาง
การดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์การให้อาหารทางสายยางการใส่สายยางให้อาหาร

การดูแลสายให้อาหาร

การดูแลสายให้อาหารที่สำคัญคือ


1. การดูแลสายให้อาหาร: หากพบว่าพลาสเตอร์ที่ปิดตรึงสายฯบริเวณสันจมูก (ตำแหน่งที่สอดใส่สายฯเข้าในช่องจมูกเพื่อให้สายฯอยู่กับที่เพื่อป้องกันการเลื่อนหลุด) สกปรก ควรใช้สำลีสะอาดชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาด และจะช่วยให้พลาสเตอร์ลอกออกได้ง่ายแล้วจึงเปลี่ยนพลาสเตอร์อันใหม่
ส่วนสายฯในส่วนที่อยู่นอกช่องจมูก ควรทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มๆชุบน้ำเปล่าสะอาด หลังจากนั้นจึงเช็ดสายฯให้แห้ง

2. การเปลี่ยนสายให้อาหาร: ตามปกติสายให้อาหารที่ใช้กับผู้ป่วยมักจะใช้ได้นานประมาณ 1 เดือนหรือน้อยกว่านั้น เมื่อเห็นว่าสายฯขุ่นสกปรก หรือมีอาหารอุดตันทำให้อาหารไม่สามารถไหล ลงไปได้ หรือสายให้อาหารรั่ว (สังเกตจากมีน้ำหรือเศษอาหารซึมออกมาในช่วงให้อาหาร/ให้ยา) จำเป็นต้องเปลี่ยนสายให้อาหารใหม่เสมอไม่ต้องรอจนถึง 1 เดือน


กรณีผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล พยาบาลจะเป็นผู้เปลี่ยนสายฯใหม่ให้ผู้ป่วย แต่หากผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน ญาติหรือผู้ดูแลที่ได้รับการสอนหรือการแนะนำอย่างดีจากพยาบาลจนมีความรู้มีความพร้อม และมั่นใจว่าจะใส่สายฯได้เองอย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อผู้ป่วย ก็สามารถเปลี่ยนถอดและใส่สายฯใหม่ให้ผู้ป่วยได้

ทั้งนี้ญาติ/ผู้ดูแลต้องรู้จักการวัดตำแหน่งความลึกของสายฯที่จะใส่ การทดสอบสายฯให้อยู่ในตำแหน่งกระเพาะอาหารด้วยการดูดน้ำย่อย หรือใช้ลมดันเข้าไปในสายฯประมาณ 10 - 15 มิลลิลิตรและใช้หูฟังบริเวณกระเพาะอาหารทางด้านซ้ายของช่องท้องที่จะได้ยินเสียงลมผ่านสายฯ

จึงมั่นใจได้ว่าสายให้อาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร และใช้พลาสเตอรืปิดสายให้อาหารยึดตรึงกับสันจมูกเพื่อป้องกันสายฯเลื่อนหลุด

อย่างไรก็ตามถ้าญาติหรือผู้ดูแลไม่มั่นใจในการจะเปลี่ยนสายให้อาหารให้แก่ผู้ป่วย สามารถ นำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลหรือมาสถานีอนามัยใกล้บ้านเพื่อให้พยาบาลช่วยเปลี่ยนสายฯให้ใหม่

ที่มา : http://haamor.com/th/การดูแลการให้อาหารทางสายให้อาหาร/

การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พักฟื้น อาหาร โรงพยาบาล ป่วย โรคเรื้อรัง ผ่าตัด สายให้อาหาร NG tube feeding เบาหวาน ความดัน ความดันโลหิตสูง แพทย์ ยา หารอาหารปั่น อาหารเสริม อาหารผสม นม นมกระป๋อง บัตรทอง สามสิบบาท ประกันสังคม บ้าน อัมพฤกษ์ อัมพาต พิการ ติดเตียง อาหารทางสายยาง คือ
สูตรอาหารทางสายยาง  อาหารทางสายยาง สำเร็จรูป สูตรอาหารทางสายยาง รามาธิบดี วัตถุประสงค์ การ ให้ อาหาร ทาง สาย ยาง
การดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์การให้อาหารทางสายยางการใส่สายยางให้อาหาร

วิธีให้อาหารทางสายให้อาหารที่ปลอดภัย

วิธีให้อาหารทางสายให้อาหารที่ปลอดภัย


วิธีให้อาหารทางสายให้อาหารที่ปลอดภัย ลดโอกาสติดเชื้อจากอาหาร และลดโอกาสสำลักอาหารได้แก่

1.ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนการเตรียมอุปกรณ์การให้อาหารทางสายให้อาหารและ ในการให้อาหารเพื่อช่วยลดจำนวนเชื้อโรค

2. เตรียมอาหารและอุปกรณ์การให้อาหารมาที่เตียงผู้ป่วยหรือที่ผู้ป่วยนั่งอยู่เพื่อสะดวกในการให้อาหารแก่ผู้ป่วย

3. แจ้งผู้ป่วยให้ทราบว่าจะให้อาหารเพื่อให้ทราบและพร้อมในการให้อาหาร ในบางครั้งถ้าพบว่าผู้ป่วยมีเสมหะ ต้องดูดเสมหะออกก่อนการให้อาหารเพื่อป้องกันการสำลักอาหารขณะให้อาหาร

4. จัดท่าเพื่อให้อาหารไหลสู่กระเพาะอาหารได้ดีลดโอกาสเกิดการสำลัก โดยจัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30 - 60 องศา (กรณีผู้ป่วยลุกนั่งไม่ได้) หรือจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลัง

5. ใส่สายให้อาหารผ่านรูจมูกด้านใดด้านหนึ่ง ผ่านลำคอ ผ่านหลอดอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร

6. เปิดจุกปลายสายให้อาหาร และเช็ดรอบรูเปิดด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือน้ำต้มสุก เพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์และลดจำนวนเชื้อโรค

7. ต่อหัวกระบอกให้อาหาร (Syringe feeding) เข้ากับรูเปิดของสายให้อาหารโดยสำรวจให้กระชับและแน่น แล้วค่อยๆดูดน้ำย่อยอาหารหรืออาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะอาหารออก ให้สังเกตปริมาณและลักษณะสิ่งที่ดูดออกมาเพื่อเป็นการทดสอบตำแหน่งของสายให้อาหารว่าอยู่ถูกต้องในกระเพาะอาหารหรือไม่ ป้องกันการเลื่อนหลุดและป้องกันการสำลักอาหารเนื่องจากการไหลย้อนกลับจากกระเพาะอาหารเข้าสู่หลอดลม ถ้าดูดออกมาได้มากเกิน 50 มิลลิลิตรให้ใส่น้ำย่อยหรืออาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะอาหารที่ดูดได้กลับเข้าไป และเลื่อนมื้ออาหารนั้นออกไป 1 ชั่วโมงเพื่อให้เวลากับการย่อยอาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมงต่อมาหากตรวจสอบพบว่ายังมีน้ำย่อยหรืออาหารค้างในกระเพาะอาหารเกิน 50 มิลลิลิตร ให้งดให้อาหารมื้อนั้นและให้อาหารในมื้อต่อไปได้ ซึ่งตามปกติจะให้อาหารวันละ 3 - 4 มื้อเช่น 7.00, 12.00, 17.00 และ 20.00 น.

8. หลังตรวจสอบตามข้อ 6 แล้ว เมื่อจะเริ่มให้อาหาร ให้พับสายให้อาหารที่ใกล้กับรูเปิด ของสายให้อาหาร สำรวจกระบอกให้อาหารที่ต่อกับสายให้อาหารให้เรียบร้อยแล้วให้กระชับแน่น นำอาหารเทลงไปในกระบอกให้อาหารประมาณ 50 มิลลิลิตรแล้วจึงค่อยๆปล่อยสายให้อาหารที่พับไว้ ยกกระบอกให้อาหารขึ้นสูงพอประมาณเพื่อช่วยให้อาหารค่อยๆไหลลงไปตามสาย เมื่ออาหารใกล้หมดเหลืออีกประมาณ 10 มิลลิลิตรจึงเทอาหารลงไปอีก ทำเช่นนี้จนอาหารที่เตรียมมาหมด และควรให้น้ำสะอาดตามลงไปอีกประมาณ 50 มิลลิลิตรหลังจากให้อาหารหมดแล้ว เพื่อช่วยล้างสายให้อาหารเพื่อลดการบูดเน่าของเศษอาหารที่ค้างอยู่ตามสายให้อาหาร

9. กรณีที่ให้ยา ถ้าเป็นยาเม็ดควรบดยาให้ละเอียดก่อนการให้ยาผ่านลงไปในสายให้อาหาร ถ้าเป็นยาที่เป็นแคปซูลควรแกะแคปซูลออกก่อน แต่ถ้าเป็นยาน้ำสามารถนำมาให้ผ่านสายฯ ได้เลย

ที่มา : http://haamor.com/th/การดูแลการให้อาหารทางสายให้อาหาร/

การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ พักฟื้น อาหาร โรงพยาบาล ป่วย โรคเรื้อรัง ผ่าตัด สายให้อาหาร NG tube feeding เบาหวาน ความดัน ความดันโลหิตสูง แพทย์ ยา หารอาหารปั่น อาหารเสริม อาหารผสม นม นมกระป๋อง บัตรทอง สามสิบบาท ประกันสังคม บ้าน อัมพฤกษ์ อัมพาต พิการ ติดเตียง อาหารทางสายยาง คือ
สูตรอาหารทางสายยาง  อาหารทางสายยาง สำเร็จรูป สูตรอาหารทางสายยาง รามาธิบดี วัตถุประสงค์ การ ให้ อาหาร ทาง สาย ยาง
การดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์การให้อาหารทางสายยางการใส่สายยางให้อาหาร

การศึกษาและประสพการณ์การทำงาน

นายบุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

BOONYING RERKUDOM

ใบประกอบวิชาชีพ เลขที่ 4511023525

สมาชิกสภาการพยาบาล เลขที่ 38875

Education

Bachelor of Nursing Science (1995), Mahidol University, BKK

Experience

2012 – Present: Supervisor Kasemrat Bangkae Hospital, BKK

2011-2012 : Supervisor BANGPAKOK 8 Hospital, BKK

2005-2011 : Night manager CHAOPHYA Hospital, BKK

1995-2005 : Nurse manager BANGPAKOK 1 Hospital, BKK

1992-1995 : ICU nurse Siriraj Hospital, BKK

การศึกษา

พยาบาลศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล (2535)

ประสพการณ์

2555- ปัจจุบัน :ผู้ตรวจการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค

2557- ปัจจุบัน :ผู้บริหารโรงเรียนบางกอกอินเตอร์แคร์ การบริบาล

2554- 2555 :ผู้ตรวจการ โรงพยาบาลบางปะกอก 8

2548- 2554 :ผู้ตรวจการ โรงพยาบาลเจ้าพระยา

2538- 2548 :ผู้จัดการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลบางปะกอก 1

2535- 2538 :พยาบาลประจำการ หออภิบาลสยามินทร์1 โรงพยาบาลศิริราช